มหาเสวกตรี  พระยาบำเรอภักดิ์ ( สนิท  จารุจินดา )

มหาเสวกตรี  พระยาบำเรอภักดิ์ ( สนิท  จารุจินดา ) เป็นบุตรของพระยาสุเรนทรราชเสนา ( เจิม จารุจินดา ) และ คุณหญิงสะอาด  สุเรนทรราชเสนา ( จารุจินดา ) เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๓๘ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๒ คน พี่ต้องร่วมบิดา ๘ คน

เมื่อยังเยาว์อยู่นั้น พระยาสุเรนทรราชเสนา ผู้บิดาต้องไปราชการต่างจังหวัด สมัยนั้นยังมีสถานที่ศึกษาอบรมกุลบุตรกุลธิดาที่ดีพอ ท่านจึงไม่นำบุตรไปอยู่หัวเมืองด้วย ได้ฝากฝังอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของ พลโท พระยาเทพอรชุน ( เจ๊ก จารุจินดา ) และคุณหญิงสาย เทพอรชุน ( จารุจินดา ) ผู้เป็นยาย

การศึกษา

      • ในชั้นต้นของการศึกษา ได้ศึกษาโรงเรียนวัดหัวลำโพง
      • จบชั้นมูลแล้ว จึงเข้าศึกษาชั้นมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบ
      • เมื่อพระยาบำเรอภักดิ์อายุได้ ๗ ปี พลโท พระยาเทพอรชุนได้นำเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระบรมโอริสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธฯ สยามมงกุฎราชกุมาร และได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เข้าศึกษาในโรงเรียนราชกุมาร ในพระบรมมหาราชวัง
      • ต่อมาเมื่อสมเด็จพระบรมโอราสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติสืบพระราชสันติวงศ์สนองพระบรมราชชนกแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงเรียนมหาดเล็กหลวงขึ้น และโปรดเกล้าฯ ให้ยกนักเรียนในโรงเรียนราชกุมารทั้งสิ้นเป็นนักเรียนมหาดเล็กหลวง พระยาบำเรอศักดิ์ จึงได้เป็นนักเรียนมหาดเล็กหลวงรุ่นแรกด้วย
      • เมื่อเรียนจบหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับราชการในพระราชสำนัก

พระยาบำเรอศักดิ์ เป็นผู้มีความสามารถทั้งด้านอักษรศาสตร์และประเพณีในพระราชสำนัก ประกอบกับเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร ปฏิบัติราชการด้วยความจงรักภักดีต่อเบื้องพระยุคลบาทเป็นที่ตั้ง จึงทำให้ชีวิตในราชการรุ่งเรืองมาก ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยา เมื่ออายุเพียง ๒๓ ปี ๙ เดือน ส่วนตำแหน่งในหน้าที่ราชการนั้นให้ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงวังเมื่ออายุเพียง ๓๒ ปี ๒ เดือน เมื่ออายุราชการเพียง ๑๖ ปี

การรับราชการ

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๕ เริ่มเข้ารับราชการในพระราชสำนัก ในตำแหน่งมหาดเล็กวิเศา กองตั้งเครื่อง กรมมหาดเล็ก  กระทรวงวัง
๑๔ สิงหาคม ๒๔๕๖ รับพระราชทานเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นรองหุ้มแพร นายรองสนิท
๑๘ กันยายน ๒๔๕๗ รับราชการในตำแหน่งนายเวร รองอธิบดี กรมมหาดเล็กอีกตำแหน่งหนึ่ง
๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๕๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นนายเสน่ห์หุ้นแพร
๑๘ กันยายน ๒๔๕๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นนายจ่ายวด
๒๓ พฤษภาคม ๒๔๕๙ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการ กรมมหาดเล็ก
๓๐ สิงหาคม ๒๔๕๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็นรองหัวหมื่นหลวงศักดิ์นายเวร
๒๐ มีนาคม ๒๔๖๐ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการจางวาง กรมมหาดเล็ก
๘ ธันวาคม ๒๔๖๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศและบรรดาศักดิ์เป็นหัวหมื่นจมื่นไวยวรนารถ
๑๔ ตุลาคม ๒๔๖๒ ตำแหน่งรองอธิบดี กรมตรวจมหาดเล็ก
๗ พฤศจิกายน ๒๔๖๒ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาอิศรพัลลภ
๑ มกราคม ๒๔๖๗ ได้รับพระราชทานยศเป็น จางวางตรี (เทียบเท่ามหาเสวกตรี)
๔ เมษายน ๒๔๖๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง องคมนตรี
๑ เมษายน ๒๔๖๙ เลื่อนตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็น ปลัดจางวาง กรมมหาดเล็ก
๑ เมษายน ๒๔๗๐ เป็นผู้รั้งตำแหน่ง ปลัดทูลฉลอง กระทรวงวัง
๕ เมษายน ๒๔๗๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็น พระยาบำเรอศักดิ์
๑๒ เมษายน ๒๔๗๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดทูลฉลอง กระทรวงวัง

ภายหลังจากที่ได้กราบถวายบังคมลาออกจากราชการแล้ว เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเสวย พระกระยาหารเป็นการส่วนพระองค์ที่บ้าน “ไกลหวอ” ซึ่งพระยาบำเรอภักดิ์ได้สร้างไว้ตั้งแต่ สมัยอพยพสงครามมหาเอเซียบูรพาที่ริมคลองประเวศ อำเภอลาดกระบังโอกาสนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมฉายาทิสลักษณ์ ลงพระปรมาภิไธยและจารึกข้อความด้วยลายพระหัตถ์ พระมหากรุณาธิคุณที่เสด็จฯ เยี่ยม และพระราชทาน พระบรมสาทิสลักษณ์นั้น พระยาบำเรอภักดิ์ ถือเป็นเกียรติอันสูงสุดในชีวิตของท่าน อันนับได้ว่าเป็นมงคลในเบื้องปลายชีวิตของท่าน

พระยาบำเรอภักดิ์ ได้สมรสกับคุณหญิงบุบผา บำเรอภักดิ์ ( จารุจินดา ) ธิดาเจ้าพระยาสุรบดินทรสุรบดินทรสุรินทรฦาไชย และคุณหญิงเพิ่ม จารุจินดา ( จารุจินดา ) ไม่มีบุตรและธิดา ท่านป่วยด้วยโรคชรา และถึงแก่อนิจกรรมด้วยความสงบเมื่อ วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖ สิริรวมอายุได้ ๘๗ ปี ๑๑ เดือน ๒๕ วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจา ตั้งประดับเกียรติยศ และพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอดมีพิธีกรรมสวดพระอภิธรรมกลางคืน กลางคืนกำหนด ๗ คืน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายา ได้เสด็จไปพระราชทานเพลิงศพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕ ไตร ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๕ ไตร ให้ทายาทนำไปทอดที่โกศศพ พระสงฆ์ ๑๐ รูปบังสุกุล เสร็จแล้วทรงจุดฝักแคพระราชทานเพลิง

Scroll to Top