คุณเติม จารุจินดา เป็นบุตร พันตรีพระจำเริญพลรบ (แฐม จารุินดา) และคุณเผื่อน จำเริญพลรบ (วราห์สิน) เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๔๕๒ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๒ คน พี่น้องร่วมบิดา ๓ คน
การศึกษา
เริ่มเรียนหนังสือครั้งแรกอยู่กับบ้าน โดยพี่ชายต่างมารดา (ร้อยโท ขุนเทพสรสิทธิ์) เป็นผู้สอนให้ ต่อมาจึงได้เข้าโรงเรียนวัดหัวลำโพง เมื่อสอบ ป.๓ ได้ ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ จนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา
การรับราชการฃ
-
-
- ๑ เมษายน ๒๔๗๔ เสมียนตรีเรือนจำ กองลหุโทษ
- ๑๘ เมษายน ๒๔๗๔ ปลัดซ้ายอำเภอสะบารัง (ปัจจุบัน คืออำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี)
- ๑ ธันวาคม ๒๔๗๔ เสมียนเอก เรือนจำกองมหันตโทษ จังหวัดนนทบุรี
- ๑ มีนาคม ๒๔๗๗ เสมียนอันดับ ๓ กรมราชทัณฑ์
- ๑ มกราคม ๒๔๘๒ เสมียนพนักงาน กรมราชทัณฑ์
- ๑ มีนาคม ๒๔๘๔ ผู้คุมชั้น ๑ เรือนจำธารโต จังหวัดยะลา
- ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๕ พัศดีตรี เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
- ๑ ธันวาคม ๒๔๘๕ พัศดีตรี เรือนจำจังหวัดปัตตานี
- ๑ มิถุนายน ๒๔๘๗ พนักงานอบรมตรี นิคมฝึกอาชีพเกาะตรุเตา จังหวัดสตูล
- ๓ ธันวาคม ๒๔๘๘ ช่วยราชการที่ค่ายพิทักษ์บางบังทอง จังหวัดนนทบุรี
- พ.ศ. ๒๔๘๙ พัศดีเรือนจำบางขวาง จังหวัดนนทบุรี
- ๑ เมษายน ๒๔๙๒ ประจำแผนกตรวจ กองทัณฑวิทยา กรมราชทัณฑ์
- ๑ มีนาคม ๒๔๙๖ ประจำแผนกตรวจและค้นคว้า กองอาชญาวิทยา กรมราชทัณฑ์
- ๑ สิงหาคม ๒๔๙๙ ประจำแผนกวิชาการ กองอาชญาวิทยา กรมราชทัณฑ์
- ๕ ตุลาคม ๒๕๐๐ พัศดีโท เรือนจำจังหวัดสกลนคร
- ๑ เมษายน ๒๕๐๓ พัศดีโท เรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี
- ๑ มกราคม ๒๕๐๕ ลาออกจากราชการ รับบำนาญ
-
คุณเติม จารุจินดา ได้อุปสมบท ณ วัดหัวลำโพง เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๔๙๐ พระพิมลธรรม ( ฐานทตฺโต ) เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูปุสสนานาคสิริวัฒน์ และพระมหาบุญฐิตะศีโล เป็นพระอนุกรมวาจา ได้นามว่า “ ธมฺมติโร ” ลาสิกขาบทเมื่อ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๙๐
คุณเติม จารุจินดา หลังออกจากราชการรับบำนาญแล้ว อยู่กับบ้านเป็นหัวหน้าครอบครัวโดยตลอด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้ป่วยเป็น “ เส้นโลหิตในสมองด้านซ้ายตีบตัน ” ร่างกายซีกขวาต้องพิการอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่ออาการป่วยทุเลา ได้เริ่มคิดรวบรวม “ สายสกุล จารุจินดา ” เพื่อให้สำเร็จสมที่ตั้งปณิธานไว้ ได้พยายามรวบรวมจนสำเร็จ ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่หลายท่าน นอกจากนั้นยังได้รวบรวมประวัติของ “สายสกุล จารุจินดา ” บางท่าน โดยให้ชื่อว่า “ เกียรติศักดิ์ จารุจินดา ” ได้เผยแพร่ไปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๒ แม้ขณะนั้นท่านประสบโรคแทรกขึ้นมาอย่างกระทันหัน โดยเป็นโรคปอดบวม โรคประสาท โรคหัวใจ ก็ตาม
ชีวิตการรับราชการของท่าน นับว่าลุ่มๆ ดอนๆ มีอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มั่นคงต่อโอวาทจากท่านบิดาที่ให้ไว้ว่า “ ตั้งใจทำงานให้ดี การรับราชการต้องยึดถือความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสำคัญ การใดไม่สุจริต จงอย่าทำ จงรักษาเกียรติแห่ง จารุจินดา ของเราเอาไว้ อย่าใหเสียหาย ” ท่านได้ปฏิบัติมาด้วยดี ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา มีความสำคัญต่อการบริหาร เป็นภาระผู้นำที่ดี เป็นที่รักใคร่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ในที่สุด “ เกิดการเบื่อหน่าย ” ต่อวิถีราชการมากเข้า ท่านจึงได้ตัดสินใจลาออกราชการตั้งแต่อายุ ๕๒ ปี (รวมเวลารับราชการ รวมวันทวีคูณในการประกาศกฏอัยการศึก ๓๖ ปี)
คุณเติม จารุจินดา เป็นผู้ยึดมั่นในศีลธรรม โดยเฉพาะ “ ความกตัญญูกตเวทิตา ” ท่านถือเป็นสรณะ ผู้ใดกระทำคุณต่อท่านไว้ ท่านมิรู้ลืม ท่านจะระลึกถึงอยู่เสมอ หาโอกาสตอบแทนพระคุณนั้นโดยมิเสื่อมคลาย
คุณเติม จารุจินดา ได้สมรสกับ คุณแฉล้ม (ดำสนิท) มีบุตรธิดา ๕ คน
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ รู้สึกไม่ค่อยสบายด้วยไข้หวัด จากนั้น อีก ๒ วัน ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้วยโรคปอดบวมและโรคหัวใจ อาการมีแต่ทรงกับทรุด ได้ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๒๓ รวมสิริอายุได้ ๗๑ ปี ๑ เดือน ๑ วัน ได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๒๔ ณ ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร.