ร้อยเอก ขุนจินดายุทธวิตต์ ( ฤกษ์ จารุจินดา ) เป็นบุตรพระยาศรีธรรมศุภราช ( เจริญ  จารุจินดา ) และคุณหรุ่น จารุจินดา เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2436 มีพี่น้องร่วมบิดา 16 คน
เมื่อคลอดแล้วประมาณ 3 – 4 เดือน ผู้มารดาได้พาเข้าไปอยู่กับเจ้าจอมลิ้นจี่ ในรัชการที่ 5 ( ธิดาพระยาเพชรพิไชย และคุณหญิงเย็น เพชรพิไชย ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ในพระบรมมหาราชวัง ได้เรียนหนังสือในพระบรมมหาราชวัง
พ.ศ. 2448 จึงได้ออกจากพระบรมมหาราชวัง โดยมาบรรพชาเป็นสามเณร อยู่ ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม โดยพระธรรมปาโมกข์ ( ถม ) เจ้าอาวาสเป็นพระอุปัชฌายะ เมื่อบวชแล้วอยู่ในความปกครองของพระมหาแจ่ม ( ต่อมาเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ )
พ.ศ. 2449 ภายหลังจากออกพรรษาแล้ว ได้ลาสึกจากสามเณร และคงอยู่กับวัดนั้นจนถึงปลายปี จึงไปอยู่กับท่านบิดาที่จังหวัดสงขลา ( ขณะนั้นท่านบิดามีบรรดาศักดิ์ พระยาชลบุรานุรักษ์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ) ได้เข้าเรียนหนังสือใน พ.ศ. 2450 ที่ โรงเรียน มหาวชิราวุธ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เข้าเรียนจบชั้น ป. 3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของชั้นประถมในสมัยนั้น
พ.ศ. 2451 กลับเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์
พ.ศ. 2453 คุณหญิงเล็ก ( ภรรยาท่านบิดา ) ได้นำถวายตัวเป็นมหาดเล็กในทูลกระหม่อมจักรพงษ์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ และย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
พ.ศ. 2454 เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยทหารบก อยู่ชั้นปฐม 2 สอบไล่เลื่อนชั้นได้ทุกปีเป็นลำดับ จนถึง พ.ศ. 2460 ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ได้ที่ 20 จากจำนวนนักเรียน 41 คน
พ.ศ. 2461 ได้เป็นนักเรียนทำการนายร้อย ประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ 7 ( พิษณุโลก ) ได้เป็นว่าที่ร้อยตรี ในเดือน พฤศจิกายน 2461
พ.ศ. 2462 ได้เลื่อนยศเป็น ร้อยตรี และมาเป็นนักเรียนล่ามทหารบก สังกัดกรมยุทธศึกษาทหารบก จนถึง พ.ศ. 2464
พ.ศ. 2465 สำเร็จจากโรงเรียนล่ามทหารบก ไปเป็นนักเรียนนายทหารปืนใหญ่สังกัดกรมทหารปืนใหญ่  ที่ 2 (บางซื่อ )
พ.ศ. 2466 ตอนปลายปี สอบไล่เสร็จแล้ว จึงเข้าไปประจำกรมทหารบกปืนใหญ่ที่ 2 กองร้อยที่ 1 ( บางซื่อ )
พ.ศ. 2467 ได้รับการเลื่อนยศ เป็น ร้อยโท สังกัดเดิม
พ.ศ. 2470 ย้ายไปเป็นทหารคนสนิทของผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมทหารบกปืนใหญ่ที่ 5 ( นครราชสีมา )
พ.ศ. 2472 ไปเป็นนายทหารฝึกหัดราชการในโรงเรียนนายทหารสัมภาระ
พ.ศ. 2473 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ขุนจินดายุทธวิตต์ และไปเป็นผู้ช่วยสมุห์บัญชี กรมทหารบกช่างที่ 2 ( อยุธยา )
พ.ศ. 2475 ได้รับการเลื่อนยศเป็นร้อยเอก และเป็นสมุห์บัญชีกรมทหารบกช่างที่ 2  ( อยุธยา ) และในปีนี้เองได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ได้โอนกรมทหารบกช่างที่ 2 ไปขึ้นจังหวัดทหารบกอยุธยา ไม่ต้องมีสมุห์บัญชีกรมทหารบกช่างที่ 2 จึงได้รับตำแหน่งให้เป็นสมุห์บัญชีจังหวัดทหารบกอยุธยา
พ.ศ. 2476  เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอัตรากำลัง สมุห์บัญชีจังหวัดฯ เป็นชั้นนายพัน จึงถูกลดตำแหน่งลงมาเป็นนายทหารฝ่ายการเงินจังหวัด เพราะอาวุโสน้อย ในปีนี้เอง มีคำสั่งกระทรวงกลาโหมย้ายไปประจำกรมปลัดบัญชี แต่หาได้ทันย้ายตามคำสั่งไม่  เพราะไม่มีผู้มารับหน้าที่ และทั้งยังต้องรักษาการในตำแหน่งสมุหบัญชีจังหวัดทหารบกอยุธยาอีกด้วย ( เพราะสมุหบัญชีจังหวัดก็ย้ายด้วย )
10 ตุลาคม 2476 เวลาเย็น ผู้บังคับการทหารบกจังหวัด เรียกประชุมนายทหารในจังหวัดที่บ้าน แล้วชี้แจงว่า พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา มีคำสั่งโทรเลข ( ชูโทรเลขให้ดู ) ให้ทหารช่างไปช่วยปราบคอมมิวนิสต์ที่กรุงเทพฯ ครั้งพอตกค่ำทหารช่างทั้ง 2 กองพันก็ยกไปดอนเมือง ( ภายหลังเรียกกันว่า “ขบถบวรเดช” จึงทำให้ร้อยเอก ขุนจินดายุทธวิตต์ ต้องตกค้างอยู่ที่อยุธยา หาได้ทันย้ายเข้ากระทรวงตามคำสั่งไม่ ต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการไปตามปกติตลอดเวลาที่เรียกกันว่า “ขบถ” และตลอดจนถึงเวลาที่ทหารฝ่ายรัฐบาลขึ้นไปยึดพระนครศรีอยุธยาด้วย จนถึงต้นมกราคม 2477 จึงได้มารายงานตัวที่กรมปลัดบัญชีตามคำสั่ง
9 มกราคม 2477 ถูกควบคุมตัวไปกักขังที่กระทรวงกลาโหม ในฐานะเป็นฝ่ายขบถแล้วต่อมาถูกย้ายไปกักขังที่เรือนจำมหันตโทษ บางขวาง  จังหวัดนนทบุรี จึงถึงพฤษภาคม 2477 ศาลพิเศษก็ตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ( แต่ลดโทษอะไรไม่ทราบแน่ชัด คงคุมขังลดเหลือเพียง 9 ปี ) ต้องถูกถอดยศและบรรดาศักดิ์
1 เมษายน 2481 ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ให้ปลดปล่อยจากเรือนจำ และรัฐบาลยอมอนุมัติให้เข้ารับราชการในสถานที่ของรัฐบาลได้ ต่อมาได้รับยศและบรรดาศักดิ์คืนเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2489 เป็นนายทหารนอกราชการ รับเงินบำนาญประเภททดแทน สังกัดกองทัพบก
16 เมษายน 2481 สมัครเข้าทำงานในโรงงานทอผ้าไทย สังกัดกระทรวงกลาโหม ได้รับการบรรจุเป็นเสมียนฝ่ายยกกระบัตร ( แผนกพัสดุ ) ในปลายปีได้รับการแต่งตั้งไปเป็นหัวหน้าแผนกพัสดุ โรงงานทอผ้าไทย ภาค 2 ( พิษณุโลก  )  ถึงตุลาคม 2491 ย้ายมาเป็นหัวหน้าพัสดุ โรงงานวัดสร้อยทอง
พ.ศ. 2493 ย้ายไปประจำกองการค้า กองอำนวยการกลาง องค์การทอผ้า
พ.ศ. 2500 ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานพัสดุและยานพาหนะ ( คือหัวหน้าแผนกพัสดุ ) กองอำนวยการ องค์การทอผ้า
1 มกราคม พ.ศ. 2506 ลาออกจากหน้าที่
ร้อยเอก ขุนจินดายุทธวิตต์ ได้ทำการสมรสกับ คุณน้อม ในกลางปี 2463 มีบุตรและธิดา 5 คน
ร้อยเอก ขุนจินดายุทธวิตต์ ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2531 รวมอายุได้ 95 ปี 1 เดือน 11 วัน ได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2531 ณ วัดศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร